ลำต้นของกล้วย
วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556
ประวัติของกล้วย
กล้วยเป็นไม้ผลที่คนไทยรู้จักกันมานาน เนื่องจากกล้วยมีถิ่นกำเนิดในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งในภูมิภาคดังกล่าว จากการศึกษาพบว่า กล้วยมีวิวัฒนาการถึง ๕๐ ล้านปีมาแล้ว ดังนั้นจึงเป็นไม้ผลที่มนุษย์รู้จักบริโภคเป็นอาหารกันอย่างแพร่หลาย เชื่อกันว่า กล้วยเป็นไม้ผลชนิดแรก ที่มีการปลูกเลี้ยงไว้ตามบ้าน และได้แพร่พันธุ์จากเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปยังดินแดนอื่นๆ ในระยะเวลาต่อมา
กล้วยมีการปลูกกันมากในเอเชียใต้ แม้ในปัจจุบัน ประเทศอินเดียเป็นประเทศที่มีการปลูกกล้วยมากที่สุดในโลก และมีพันธุ์กล้วยมากมายอีกด้วย เหมาะสมกับที่มีการกล่าวกันไว้ในหนังสือของชาวอาหรับว่า "กล้วยเป็นผลไม้ของชาวอินเดีย" ต่อมา ได้มีหมอของจักรพรรดิโรมันแห่งกรุงโรมชื่อว่า แอนโตนิอุส มูซา (Antonius Musa) ได้นำหน่อกล้วยจากอินเดีย ไปปลูกทางตอนเหนือของอียิปต์ เมื่อประมาณ ๒,๐๐๐ ปีมาแล้ว หลังจากนั้น มีการแพร่ขยายพันธุ์กล้วยไปในดินแดนของแอฟริกา ที่ชาวอาหรับเข้าไปค้าขาย และพำนักอาศัย จนกระทั่งเมื่อประมาณ ค.ศ. ๙๖๕ ได้มีการกล่าวถึงกล้วยว่า ใช้ในการประกอบอาหารชนิดหนึ่งของชาวอาหรับ ซึ่งอร่อย และเป็นที่เลื่องลือมาก ชื่อว่า กาลาอิฟ (Kalaif ) เป็นอาหารที่ปรุงด้วยกล้วย เมล็ดอัลมอนด์ น้ำผึ้ง ผสมกับน้ำมันนัต (Nut oil) ซึ่งสกัดจากผลไม้เปลือกแข็งชนิดหนึ่ง นอกจากใช้ประกอบอาหารแล้ว ชาวอาหรับยังใช้กล้วยทำยาอีกด้วย ชาวอาหรับเรียกกล้วยว่า "มูซา" ตามชื่อของหมอ ที่เป็นผู้นำกล้วยเข้ามาในอียิปต์เป็นครั้งแรก
ในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ ๑๕ ชาวโปรตุเกสได้เดินเรือไปค้าขายบริเวณชายฝั่งตะวันตกของทวีปแอฟริกา และได้นำกล้วยไปแพร่พันธุ์ที่หมู่เกาะคะแนรี ซึ่งตั้งอยู่นอกชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของทวีป หลังจากนั้น ชาวสเปนจึงได้นำกล้วยจากหมู่เกาะคะแนรีเข้าไปปลูกในหมู่เกาะอินดีสตะวันตกในอเมริกากลาง โดยเริ่มปลูก ที่อาณานิคมซันโตโดมิงโก บนเกาะฮิสปันโยลาเป็นแห่งแรก แล้วขยายไปปลูกที่เกาะอื่นในเวลาต่อมา ส่งผลให้ดินแดนในอเมริกากลางมีการปลูกกล้วยเป็นพืชเศรษฐกิจกันอย่างแพร่หลาย และนับตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ ๑๙ เป็นต้นมา ได้กลายเป็นแหล่งปลูกกล้วยส่งเป็นสินค้าออกมากที่สุดของโลก โดยปลูกมากในประเทศคอสตาริกา และประเทศฮอนดูรัส
ครูในศตวรรษที่ 21
กระแสโลกาภิวัฒน์ทำให้สังคมประเทศและสังคมโลกเปลี่ยนแปลงด้านพลังอำนาจของชาติด้านต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตสงครามเย็นยุติ มหาอำนาจทางทหารเหลือหนึ่งเดียว คือ สหรัฐอเมริกา การแข่งขันด้านเศรษฐกิจมีความรุนแรง โดย แยกเป็น 3 ขั้วอำนาจ คือ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และเอเชีย โดยเฉพาะญี่ปุ่นและจีนประเทศต่าง ๆ สร้างความเข็มแข็งให้เยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติให้ได้มาตรฐาน เรียนรู้ คิดเป็น สร้างนวัตกรรมได้ เพื่อความอยู่รอดของชาติและเผ่าพันธุ์ตนเองที่แท้จริงในอนาคต
ในสังคมใหม่มีการกล่าวถึงคำว่า “ การครอบโลก” คือการสั่งการโดยอำนาจทางเศรษฐกิจของมหาอำนาจต่าง ๆ พิเชียร คุระทอง (2541:2) กล่าวว่าเห็นด้วยกับ กมล กมลตระกูล ที่ได้ให้ความหมายด้านมืดของโลกาภิวัฒน์ (Globalization) ว่าเป็น “การครอบงำโลก” ถ้าไม่มองโลกาภิวัฒน์ 2 ด้าน แล้วไม่สร้างภูมิต้านทานให้ตนเองหลงใหลตามกระแสโลกทั้งหมด ประเทศโลกที่ 3 ที่ยากจนจะถูกระแสโลกฉุดกระชากไปสู่ความหายนะ อนาคตความอยู่รอดของชาติและเผ่าพันธุ์ของชาติ กลับแปรเปลี่ยนเป็น “ทรัพยากรมนุษย์” ที่ต้องมีความรู้รอบด้านและมีสมรรถนะด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ทันสมัยและสามารถแสวงหาความรู้ได้เองจากสื่อทุกประเภท เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ ความรู้ใหม่ โดยการวิจัยทดลอง การลองผิดลองถูกเพื่อเป็นทรัพย์สมบัติของชาติตน ดังแนวทางของชาวยุโรปได้เคยกระทำมาแล้วในอดีตเมื่อ 100 กว่าปีที่ผ่านมาลองผิดลองถูก ทำการวิจัยตามวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ ผลที่ได้เป็นศาสตร์ใหม่ นวัตกรรมใหม่และทุกคนยอมรับเป็นมาตรฐานสากล
ดังนั้นการดำเนินการพัฒนาดังกล่าว ครูและบุคลากรทางการศึกษาจึงเป็นบุคคลที่มีความสำคัญโดยตรงและโดยอ้อมที่จะถ่ายทอดความรู้ความสามารถแก่ศิษย์ทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านความรู้ ความคิด หรือพุทธพิสัย (Cognitive Domain) ด้านความรู้สึก อารมณ์ สังคมหรือด้านจิตพิสัย ( Affective Domain) ด้านทักษะปฏิบัติหรือทักษะพิสัย (Psychomotor Domain) ด้านทักษะการจัดการหรือทักษะกระบวนการ(Management Skill) ซึ่งเป็นความจำเป็น 4 ประการในการพัฒนามนุษย์ให้มีคุณภาพ และประสิทธิภาพ
คุณลักษณะของครูและผู้สนับสนุนการศึกษายุคใหม่จึงน่าจะประกอบด้วยคุณลักษณะต่าง ๆ เช่น คุณลักษณะของผู้นำทางการศึกษาที่มีวิสัยทัศน์ คุณลักษณะทางเทคโนโลยีทางการศึกษา และคุณลักษณะของผู้มีคุณธรรมตามแนวทางคำสอนของทุกศาสนา
1. คุณลักษณะของผู้นำ ที่มีวิสัยทัศน์ มีคำกล่าวว่า “ผู้นำต้องสอนผู้นำ” และเอกสารวิจัย ทำนุ พรหมาพันธ์ (2529: ค) กล่าวถึงการถ่ายทอดทางทหารเป็นลักษณะบอกเล่าประสบการณ์ทางทหารต่อ ๆ กัน พีระศักดิ์ ทวีคูณ (2529 :ข) ได้สรุปว่าผลการวิจัยเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของผู้นำทางทหารที่ต้องการไว้ดังนี้ “ผู้นำทางทหารที่ประสบผลสำเร็จในการบริหารหน่วยงาน จะต้องเป็นผู้บริหารที่ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา ไม่หยุด หมั่นศึกษาหาความรู้ ปรับตนเองเข้ากับสถานการณ์ ทันต่อเหตุการณ์เป็นพลวัต โดยใช้วิธีการ ระบบสารสนเทศที่ถูกต้องรวดเร็วและนวัตกรรม ทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ เป็นเครื่องมือช่วยในการบริหารงาน” จากที่กล่าวมาแล้ว ครูจึงน่าต้องเป็นผู้นำด้วย
การเป็นผู้นำหรือภาวะผู้นำ ที่ยอดเยี่ยมและประจักษ์โดยทั่วไปในปัจจุบันคงต้องกล่าวถึง The West point สถาบันทางทหารที่ผลิตนายทหารสัญญาบัตรและพลเรือนชั้นนำของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยทั่วไปคุณสมบัติของผู้นำพลเรือนและพวกทหารก็มีความคล้ายคลึงกันเพียงแต่ว่าฝ่ายไหนจะเน้นคุณสมบัติข้อไหนเท่านั้น เมื่อภาระหน้าที่ที่ทำเกี่ยวข้องกับความเป็นความตายอย่างเช่นในยามสงคราม ต้องเรียนรู้ที่จะปฏิบัติหน้าที่อย่างเอาจริงเอาจัง รู้จักให้ความสนใจกับคนรอบข้างและตนเองต้องไม่มองข้ามความสำคัญของทุกสิ่งรอบตัว คุณสมบัติเหล่านี้ต้องมีให้ครบ ในสถานการณ์เสี่ยงภัยแบบนั้นจะสอนให้คนมีปฏิกิริยาบางอย่าง เร็วขึ้นกว่าในภาวะปกติกว่าแบบการทำงานในองค์กรพลเรือน พฤติกรรมที่ว่านี้คือจะมีการเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาสูง มีความจงรักภักดี มีความตั้งอกตั้งใจ รู้จักเสียสละและมีความซื่อสัตย์
แต่ในปัจจุบันนี้ในวงการธุรกิจเอกชนที่มีการแข่งขันกันมาก ราวกับการสู้รบในสมรภูมิ การเรียนรู้คุณสมบัติเหล่านี้ให้รวดเร็วทันการณ์ก็จะพบว่าเป็นประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง อำนาจกำลังรบที่ไม่มีตัวตน ซึ่งหมายความถึงภาวะทางจิตที่ต้องสร้างให้คนมีความอดทน เชื่อฟัง คล้อยตามต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ จนชำนาญไม่ตื่นตระหนกสามารถเข้าทำการรบได้จริงเมื่อมีสถานการณ์ หรือปฏิบัติการณ์ที่สำคัญ ๆ ได้โดยจิตวิญญาณนักรบของทุกชั้นยศซึ่งยอมรับด้วยเกียรติยศที่ห้ามหยามหมิ่นเป็นสิ่งที่ผู้นำทางทหารทั่วไปให้ความสำคัญกว่าพลเรือน
ผู้นำที่สามารถชี้นำกลุ่มกระทำการได้บรรลุผลสำเร็จ สามารถแก้ไขเหตการณ์ในภาวะคับขันในภาวะคับขันด้วยการสร้างสรร ไม่ทำลายโดยขาดสติถือว่าเป็นผู้นำชั้นยอด และหากเหตุการณ์เดียวกันผู้นำตัดสินใจผิดพลาดก็ไม่ต่างกับฆาตรกรที่ทำลายองค์กรและกลุ่ม ชื่อเสียงของ The West point ช่วงตลอดอายุอันยาวนานเกือบเท่าอายุประเทศสหรัฐอเมริกาของสถาบันแห่งนี้ ผู้ที่เคยผ่านรั้วเวสต์ ปอยด์ มีทั้งผู้นำทางทหารหลายต่อหลายคน อาทิ ดั้กลาส แมกอาเธอร์ ดไวท์ ดี ไอเซนเฮาว์ นายพลห้าดาวผู้ลือลั่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นอร์แมน ชว็อซคอฟ แห่งยุทธการการพายุทะเลทราย มาถึงรุ่นล่าสุด คอลลิน เพาเวลล์ รัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศสหรัฐอเมริกาและผู้นำพลเรือนอย่าง โรเบิร์ต วู้ดแห่งเซียร์ โรบั้ค แรนด์ อราชค็อก ประธานบริษัทไอทีที แฟรงค์ บอร์แมน อดีตนักบินอวกาศและอดีตประธานบริษัทอีสเทอร์น แอร์ไลน์ ตลอดจนบริษัทใหญ่อีกหลายแห่ง ปรัชญาการฝึกฝนและปฏิบัติของชาวเวสต์ ปอยด์ จึงยังคงความขลังอยู่เสมอให้บุคคลผู้ปราถนาจะเป็นผู้นำ ที่ประสบผลสำเร็จในการได้เรียนรู้ ซึมซับและเข้าใจแก่นแท้ของความคิด ตลอดจนการฝึกฝนเคี่ยวกรำอย่างหนักที่หล่อหลอมให้นักเรียนนายร้อยเวสต์ ปอยด์ เป็นผู้มีบุคลิกภาพและคุณลักษณะพิเศษ
Col. Larry R.Donnithorne ( 1994 ) อดีตอาจารย์นักเรียนนายร้อยเวสต์ ปอยด์กล่าวถึง ผู้นำที่มีคุณลักษณะหมายถึง ลักษณะผู้นำที่ต้องการให้นักเรียนนายร้อยเวสต์ ปอยด์ มี ดังนี้ ความมั่นใจ ความทะเยอทะยาน ความกล้าหาญ ความเฉลียวฉลาด มีวาทะจูงใจ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ความเมตตาและที่ควรมีตัวผู้นำทางทหารอย่างมากที่ไม่ควรมองข้ามคือความซื่อสัตย์ เป็นที่ไว้วางใจอย่างไม่มีข้อกังขาใด ๆแม้ในภาวะคับขันและคุณลักษณะอีกอันหนึ่งที่ผู้นำควรมีคือ ความก้าวร้าว ผู้นำทุกคนต้องประสบกับการเสี่ยงภัย ยิ่งต้องเสี่ยงมากระดับความกลัวก็มากขึ้น วิธีที่ดีที่สุดที่จะฝึกตัวเองให้จัดการกับความกลัวได้ เมื่อต้องอยู่กับความเสี่ยงสูงก็คือ เอาชนะความกลัวให้ได้ในสภาวะคับขัน ผู้นำทุกคนจำเป็น (Needs) จะต้องมีความก้าวร้าว แต่ผู้นำที่ดีจะต้องรู้จักควบคุมความก้าวร้าว ต้องไม่มีการระเบิดวาจาออกมาเพราะขาดการควบคุมตนเอง ผู้นำทุกคนต้องเสียสละอย่างสุดชีวิตเพื่อนำองค์กรของตนเองไปสู่ชัยชนะ ความก้าวร้าว เป็นบุคลิกอันหนึ่งที่ผู้นำต้องใช้เมื่อเป้าหมายคือชัยชนะ แต่ผู้นำมีคุณลักษณะที่ดีทั้งทางพลเรือนและทหาร ต้องเข้าใจว่าชัยชนะจะต้องได้มาด้วยวิธีการที่ขาวสะอาด Col. Larry R.Donnithorne ( 1994:48)
2. คุณลักษณะของเทคโนโลยีทางการศึกษา เทคโนโลยีทางการศึกษา หมายถึง การสื่อสารเพื่อการถ่ายทอดทางการศึกษาแก่ผู้เรียนด้วยสื่อ เช่น คอมพิวเตอร์ มัลติมีเดีย (สื่อประสม) ฯลฯ
มัลติมีเดีย หมายถึง อุปกรณ์ที่ใช้งานกับ คอมพิวเตอร์
พรพิไล เลิศวิชา (2544) กล่าวถึงการใช้มัลติมีเดีย ว่าควรใช้ดังนี้ เป็นเครื่องมือสร้างภาพแทนข้อมูลตัวเลขในรูปกราฟ ต่าง ๆ อธิบายหลักการคณิตศาสตร์ สมการ และการพิสูจน์ต่าง ๆ ใช้แสดงผลของความสัมพันธ์ที่สามารถกำหนดเงื่อนไขและค่าตัวแปรต่างๆ ได้ เพื่อทดลองสังเกตและฝึกแก้ปัญหา
- ใช้ตารางคำนวณ (Spread Sheet)
- ใช้ในงานข้อมูล งานสถิติ ใช้เปรียบเทียบประมวลผลข้อมูลในงานต่าง ๆ
- ใช้เป็นฐานข้อมูลบันทึกรวบรวมคัดเลือกแยกหมวดหมู่ข้อมูลต่าง ๆ ทำดัชนีและระบบค้นหา
- ใช้สร้างงานสารานุกรมบนจอคอมพิวเตอร์ที่มีระบบเน้นอักษรขยายความ
(Multimedia Interartive Hypertext Encyclopaedia) ทำให้การค้นคว้าทำได้เร็วและได้ผลดี
- เป็น database search engine สำหรับค้นหาข้อมูลบนอินเตอร์เนต
- ใช้สร้างสิ่งแวดล้อมจำลองสถานการณ์ (Simulation) สร้างสภาพการทำงานจำลอง จำลองกระบวนการผลิตแบบอุตสาหกรรม และจำลองอื่น ๆ
- เป็นเครื่องมือในการสาธิตระบบโต้ตอบต่าง ๆ
- เป็น Word Processer เตรียมเอกสาร หรือเตรียมเนื้อหาต่าง ๆ สำหรับงานพิมพ์
- เป็นเครื่องมือสร้างดนตรี งานศิลปและงานสร้างสรรต่างๆ
- ใช้ตารางคำนวณ (Spread Sheet)
- ใช้ในงานข้อมูล งานสถิติ ใช้เปรียบเทียบประมวลผลข้อมูลในงานต่าง ๆ
- ใช้เป็นฐานข้อมูลบันทึกรวบรวมคัดเลือกแยกหมวดหมู่ข้อมูลต่าง ๆ ทำดัชนีและระบบค้นหา
- ใช้สร้างงานสารานุกรมบนจอคอมพิวเตอร์ที่มีระบบเน้นอักษรขยายความ
(Multimedia Interartive Hypertext Encyclopaedia) ทำให้การค้นคว้าทำได้เร็วและได้ผลดี
- เป็น database search engine สำหรับค้นหาข้อมูลบนอินเตอร์เนต
- ใช้สร้างสิ่งแวดล้อมจำลองสถานการณ์ (Simulation) สร้างสภาพการทำงานจำลอง จำลองกระบวนการผลิตแบบอุตสาหกรรม และจำลองอื่น ๆ
- เป็นเครื่องมือในการสาธิตระบบโต้ตอบต่าง ๆ
- เป็น Word Processer เตรียมเอกสาร หรือเตรียมเนื้อหาต่าง ๆ สำหรับงานพิมพ์
- เป็นเครื่องมือสร้างดนตรี งานศิลปและงานสร้างสรรต่างๆ
- ใช้เป็นเครื่องมือช่วยออกแบบระบบกลไกและอุปกรณ์ไฟฟ้า ออกแบบโครงการ งานสถาปัตยกรรม หรือแม้กระทั่งออกแบบโมเลกุลสารอินทรีย์ในระดับซับซ้อน
- เป็นเครื่องมือสำหรับนักเรียนใช้ฝึกเขียนโปรแกรม
- ใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารระหว่างครู ผู้ปกครอง ผู้เชี่ยวชาญ นักเรียน นักศึกษาและสมาชิกของชุมชน
- เป็นเครื่องมือสำหรับนักเรียนใช้ฝึกเขียนโปรแกรม
- ใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารระหว่างครู ผู้ปกครอง ผู้เชี่ยวชาญ นักเรียน นักศึกษาและสมาชิกของชุมชน
สถาบันชั้นนำทางทหารของโลก อีกแห่งหนึ่งคือ โรงเรียนนายร้อยแซนเฮสต์ (Royal Military Academy Sandhurst) ของประเทศอังกฤษ ที่กล่าวถึงคุณลักษณะด้านการสื่อสารเพื่อการศึกษา (Communication Studies Competency) ในตัวนายทหารหนุ่ม (young officer) ว่าเป็นความต้องการจำเป็น (needs) น่าจะรู้และเข้าใจวิถีของผู้นำและความสามารถในการสื่อสาร (Communication)ให้ชัดเจนในทุกปัจจัยที่เกี่ยวข้อง (All professional context) เช่น การสัมมนา (Seminar) การจดบันทึกข้อมูล (lectures) เป็นต้น รายการตัวบ่งชี้ที่พอจะจัดเข้ามาในกลุ่มเพื่อกระทำ (Performance )เป็นสมรรถนะด้านนี้คือ
การแสดงผลงาน (Presentation Skills)
การใช้ภาษาอังกฤษ (Written English)
การใช้ภาษาอังกฤษ (Written English)
การสัมภาษณ์ (Interviewing)
การเจรจาต่อรอง (Negotiation)
การติดต่อใกล้ชิดของสื่อทางการทหารและสื่อมวลชน (Military/Media
Relations and Media hanging)
การใช้คอมพิวเตอร์ (Basic Computer Skills)
ทักษะด้านมนุษย์สัมพันธ์ (Interpersonal Skills)
การเจรจาต่อรอง (Negotiation)
การติดต่อใกล้ชิดของสื่อทางการทหารและสื่อมวลชน (Military/Media
Relations and Media hanging)
การใช้คอมพิวเตอร์ (Basic Computer Skills)
ทักษะด้านมนุษย์สัมพันธ์ (Interpersonal Skills)
ทฤษฏีการเรียนรู้แนวคอนสตรัคติวิสม์ Constructivism ปิอาเช่ต์ ( Jean Piaget) เสนอว่า ผู้เรียนเป็นผู้สร้างความรู้ขึ้นมา เมื่อเขาลงมือทำ แสวงหาเหตุผล ค่อยๆ ทำความเข้าใจจนได้ข้อสรุป ได้ความรู้มาด้วยการลงมือเอง ผู้เรียนได้ความรู้มาโดยผ่านกระบวนการปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมของผู้เรียนเอง ตัวผู้เรียนเองค่อยสร้างทฤษฎีเกี่ยวกับโลกของตัวเขา ทฤษฎีใหม่ๆ ในใจของผู้เรียนจะเพิ่มพูนขึ้นเข็มแข็งขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งได้มาโดยอาศัยตรรกต่างๆ ที่เขาค่อยๆ สะสมขึ้นมาจากการเรียนรู้เอง (Concept)
ทฤษฏีคอนสตรัคติวิสม์ นั้นได้รับการกล่าวถึงและเผยแพร่กว้างขวางโดยอาจารย์ ซีมัวร์ เพเพิร์ต (Seymour Papert) ทฤษฏีคอนสตรัคติวิสม์ ได้ขยายความหมายของ Constructivism ออกไปโดยที่อธิบายว่า การศึกษาต้องเน้นให้เด็กสร้างความรู้ขึ้นมาเอง ถ้าเด็กมี อะไร อยู่ข้างในเป็นฐานแล้ว จากสัมพันธภาพกับสิ่งต่างๆ เด็กต้องสร้างสิ่งอื่นๆ ขึ้นมาใหม่ อันเป็นบันไดขั้นถัดไปจากการแสวงหาความรู้เบื้องต้น
สิ่งแวดล้อมที่ช่วยสร้างบรรยากาศในการสร้างความรู้ของเด็กในความคิดของ Papert คือ
1. บรรยากาศและเงื่อนไขที่เปิดโอกาสให้เด็กสร้างสรรค์สิ่งที่เขาสนใจได้อย่างแท้จริง
2. สภาพแวดล้อมสังคมที่มีความหลากหลายเอื้อให้เด็กได้ร่วมมือร่วมคิดกับคนอื่น
2. สภาพแวดล้อมสังคมที่มีความหลากหลายเอื้อให้เด็กได้ร่วมมือร่วมคิดกับคนอื่น
3. คุณลักษณะของผู้มีคุณธรรมตามแนวทางคำสอนของทุกศาสนา หลักศาสนาทุกศาสนานั้นมีคำสอนที่ดีเพื่อให้มนุษย์เมื่อเกิดมาอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข สร้างความดี ไม่เบียดเบียน ละเว้นความชั่ว อบายมุขทั้งปวง ตลอดทั้งขัดเกลาจิตใจของมนุษย์ให้อยู่ในกรอบของความดีงามตั้งแต่เด็กจนเติบโต ผู้นำที่ดีต้องมีคุณธรรมและจรรยาบรรณเป็นของตนเอง ขอยกเอาหลักการฝึกสอนผู้นำของเวสต์ ปอยต์ เป็นหลักการที่เยี่ยมมากและมีเนื้อหาครอบคลุมสิ่งต่าง ๆ อย่างกว้างขวางขั้นตอนที่ใช้ก็สมเหตุสมผล เป็นหลักการที่ดีทั้งในทางทฤษฏีและในทางปฏิบัติ แต่สิ่งที่ทำให้หลักสูตรของเวสต์ ปอยต์ เด่นที่สุดคือเป้าหมายของการเรียนการสอนการเป็นผู้นำการ “นำ” ของผู้นำจากเวสต์ ปอยต์ มีรากฐานแห่งศีลธรรมจรรยาเป็นหลัก รากฐานที่ได้รับการปลูกฝังไว้อย่างแน่นหนา นักเรียนนายร้อยที่สำเร็จการศึกษาแบบเวสต์ ปอยต์ จะกลายเป็นผู้นำที่มีคุณลักษณะ ที่เวสต์ปอยด์ผู้นำทุกคนต้องถือความสำคัญของวาจาเท่าเทียมกับการกระทำของเขา และการรักษาคุณธรรมประจำสถาบันเหนือความสัมพันธ์อันเหนี่ยวแน่นของพวกพ้อง
กฎของเวสต์ ปอยด์ ข้อหนึ่ง กล่าวว่า “ คุณธรรมขององค์กรมีความสำคัญเหนือความจงรักภักดีในระหว่างพวกพ้อง” Col. Larry R.Donnithorne ( 1994:66) ถ้าเวสต์ ปอยด์ ละเว้นกฎข้อนี้แล้ว การจะสร้างให้องค์กรมีประสิทธิภาพย่อมเป็นไปไม่ได้ อันตรายของการที่พวกพ้องเกาะกลุ่มกันเหนียวแน่นก็คือจะทำให้เป้าหมายของกลุ่มมีความสำคัญกว่าเป้าหมายขององค์กรที่พวกเขามีส่วนร่วมอยู่องค์กรจะกลายเป็นของ "พวกเขา” ไปแทนที่จะเป็น “ พวกเรา” เวสต์ ปอยด์ เริ่มต้นการสอนหลักศีลธรรมจรรยาและวิชาอื่นๆ ด้วยการให้เขาเรียนรู้กฎระเบียบก่อนกฎแห่งคำสัตย์ปฏิญาณเมื่อผู้นำนักเรียนนายร้อยย่างเข้ามาในโรงเรียนแล้ว เขาต้องเข้าพิธีสาบานตน รับคำสัตย์ปฏิญาณที่มีเนื้อหาฟังดูอ่อนหวานและตรงไปตรงมา มีใจความว่า “นักเรียนนายร้อยจะต้องไม่โกหก ไม่คดโกง ไม่ขโมยและจะต้องไม่ยินยอมให้ผู้ใดกระทำการเหล่านี้ “ และนั้นคือแห่งถ้อยคำเกียรติยศ และสอดแทรกการอบรมศิลธรรมโดยอนุศาสนาจารย์ที่เป็นสายเลือด ที่ผ่านการศึกษาด้านจิตวิทยาในระดับสูง
จากที่ผู้เขียนได้กล่าวมาแล้วทั้งหมดเป็นแนวความคิดของผู้เขียนที่รวบรวมจากเอกสาร สื่อ หลายแบบเพื่อเป็นแนวคิด ด้านการพัฒนาคุณลักษณะของครูและผู้สนับสนุนการศึกษายุคใหม่ที่น่าจะประกอบด้วยคุณลักษณะต่าง ๆ เช่น คุณลักษณะของผู้นำทางการศึกษา คุณลักษณะทางเทคโนโลยีทางการศึกษา และคุณลักษณะของผู้มีคุณธรรมตามแนวทางคำสอนของทุกศาสนา โดยยกตัวอย่างของ The West point สถาบันทางทหารที่ผลิตนายทหารสัญญาบัตรและพลเรือนชั้นนำของประเทศสหรัฐอเมริกา คงพอสรุปเป็นภาพรวมตอนท้ายนี้ได้ว่า อนาคตของเยาวชนของชาติก็คืออนาคตของประเทศ น่าจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับใครคนใดคนหนึ่งรับผิดชอบในการพัฒนาคุณภาพ ประสิทธิภาพ ไม่ว่าทั้งโรงเรียน ครอบครัว ฯลฯ แต่คงจะต้องผูกพันกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการกระทำ จากการกำหนดนโยบาย การปฎิบัติ การตรวจสอบ การประเมินประสิทธิผล ซึ่งคงจะต้องตามความเปลี่ยนแปลงในกระแสของโลก ที่จะกำหนดตัวบ่งชี้ มาตรฐานของทุกสิ่งที่เกิดมาว่า “ควรอยู่ต่อไป” หรือ “ควรพัฒนาขึ้นไปอีก"
วันศุกร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2556
13 ประโยชน์ของกล้วยที่ไม่กล้วยอย่างที่คิด
1. ลดอาการเสียวท้อง กล้วยเป็นยาลดกรดโดยธรรมชาติอยู่แล้วเวลาท้องอืดถ้าได้ทานกล้วยสัก 2-3 ลูก ไม่นานคุณจะรู้สึกสบายขึ้น วิธีนี้เหมาะจะเอาไว้ใช้เวลาเดินทางไกลๆ ที่หาร้านขายยายากด้วยค่ะ
2. ตื่นเช้าอย่างสดใส คนที่มักตื่นขึ้นมาพร้อมอาการมึนหัว หงุดหงิด ใจสั่น นั่นเป็นเพราะหลายชั่วโมงที่นอนหลับ น้ำตาลในเลือดของเราลดต่ำลง แต่เรื่องแค่นี้กล้วยช่วยได้ น้ำตาลฟรุตโตสในกล้วยเป็นกรดโมเลกุลเดี่ยวที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ทันที ช่วยให้อาการมึนหัวและอารมณ์แย่ๆ หายเร็วทันใจ
3. ปกป้องลำไส้ ช่วงไหนรู้สึกว่าโรคกระเพาะกำลังเล่นงาน อย่าลืมเพิ่มกล้วยเข้าไปในเมนูอาหารทุกมื้อค่ะ นอกจากจะทานง่าย ไม่ต้องยุ่งยากเวลาย่อยแล้ว กล้วยยังมีสารบางอย่างคล้ายนมที่จะเข้าไปเคลือบกระเพาะของเรา แผลในลำไส้ซึ่งเป็นตัวการเกิดโรคกระเพาะจะได้สมานตัว
4. หยุดโรคโลหิตจาง กล้วยเป็นยาดีที่ไม่ควรพลาดสำหรับคนที่กำลังเป็นโรคโลหิตจาง เพราะมันมีธาตุเหล็กจะเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือด โลหิตจางๆ ของคุณจะได้กลับสู่สภาวะเข้มข้นปกติ เลิกหน้ามืดเป็นลมกันเสียที
5. ป้องกันความดันโลหิต องค์การอาหารและยาของอเมริกาเลือกให้กล้วยเป็นอาหารที่ดีที่สุดในการฟื้นฟู และป้องกันโรคความดันโลหิต เพราะมันมีธาตุโพแทสเซียมสูงมาก แต่มีปริมาณเกลือต่ำ เพอร์เฟ็คท์สำหรับร่างกายของคนเป็นความดันสุดๆ
6. เลิกบุหรี่ต้องกินกล้วย คนที่ประสบการณ์เลิกบุหรี่มาแล้ว คงรู้ดีว่าความรู้สึกในตอนนั้นมันทรมานขนาดไหน แต่ถ้าได้กินกล้วยเป็นประจำความทรมานนี้จะลดลง เนื่องจากในกล้วยมีวิตามินซี เอ บี 6 บี 12 โพแทสเซียม และแมกนีเซียมสูงปรี๊ด สารอาหารเหล่านี้จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็ว คุณจะสดชื่นกระปรี้กระเปร่าจนไม่ค่อยจะโหยหา
นิโคตินเท่าไร
7. เรียนเก่งเพราะกินกล้วย โพแทสเซียมในกล้วยช่วยเพิ่มกำลังสมองให้เราได้ ถ้าวัยรุ่นที่ต้องท่องหนังสือเป็นประจำกินกล้วยเป็นอาหารเสริมทุกมื้อ คแนนสอบของคุณจะพุ่งฉิวเดินยืดโชว์พาวได้ทั้งโรงเรียนเลย เรื่องนี้ผลวิจัยเขายืนยันมาจ้า
8. ลดอาการซึมเศร้า โรคนี้ใครที่เคยเป็ฯจะรู้สึกว่าทรมานมาก แต่จากการสำรวจพบว่าความรู้สึกซึมเศร้าจะลดลงหลังจากได้กินกล้วย เพราะร่างกายได้รับโปรตีน trypotophan ที่จะถูกเปลี่ยนให้เป็นสารแห่งความสุขที่ชื่อเซโรโทนิน รู้อย่างนี้แล้วคนที่อยากอารมณ์ดีตลอดเวลาคงต้องเพิ่มกล้วยเจ้าไปในเมนูอาหารประจำวันแล้วละ
9. ลดอาการเมาค้าง ในกรณีที่คุณเป็นผีเสื้อราตรี ชอบออกไปเฮฮาปาร์ตี้กับเพื่อนแล้วกลับถึงบ้านในสภาพเมาปลิ้นสิ้นแรง ก่อนเข้านอนควรทานน้ำกล้วยปั่นใส่น้ำผึ้งก่อน 1 แก้ว กล้วยจะไปเคลือบกระเพาะไม่ให้หิวกลางดึก และทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสมดุล น้ำผึ้งเพิ่มความกระปรี้กระเปร่า ควบคุมระดับน้ำตาลระหว่างหลับ ตื่นขึ้นมาคุณจะมีอาการเมาค้างน้อยมากถึงมากที่สุด
10. แก้ปัญหาท้องผูก กล้วยเป็นยาระบายอ่อนๆ ของไทยเรามตั้งแต่โบราณ โดยเฉพาะกล้วยน้ำว้า แต่มีข้อแม้ว่าต้องเป็นกล้วยสุกเท่านั้น ส่วนกล้วยดิบอาจทำให้ลำไส้อุดตัน กินแล้วปมในท้องจะขมวดเกลียวผูกหนักยิ่งกว่าเดิม
11. ป้องกันเส้นเลือดฝอยแตก กล้วยช่วยคุณได้ ผลวิจัยในวารสาร “The New England Journal of Medicine” บอกว่าการกินกล้วยเป็นประจำสามารถลดอันตรายที่เกิดกับเส้นโลหิตแตกได้ถึง 40%
12. ไดเอทด้วยกล้วย ที่ญี่ปุ่นมีวิธีไดแอทที่เคยฮิตอยู่ช่วงหนึ่งเรียกว่า “บานาน่า ไดเอท” หรือไดเอทด้วยการกินกล้วยแสดงว่ากล้วยสามารถช่วยให้น้ำหนักตัวลดลงได้เหมือนกัน เพราะมันสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ช่วยให้ไม่หิวบ่อย คนที่กินกล้วยทุกๆ 2 ชั่วโมงจะไม่ค่อยอยากอาหาร ไม่ต้องทานจุกจิก ที่สำคัญถึงจะกำลังไดเอทคุณก็ไม่หงุดหงิด เพราะได้ช่วยช่วยดีๆ อย่างวิตามินบี 6 และโปรตีน trypotophan นั่นเอง
13. กำจัดหูด เรื่องนี้คนไทยโบราณทำกันมานานแล้ว แต่คนรุ่นใหม่อย่างเราอาจยังไม่รู้ว่าหูดกับกล้วยเป็นอะไรที่เข้ากั๊นเข้ากัน เพียงแค่คว่ำเปลือกกล้วยลงไปบนหูดให้ส่วนที่เป็นตัวยางแนบติดกับหูด แปะพลาสเตอร์ทับไว้ให้เปลือกกล้วยไม่เลื่อนทำทุกวันประมาณ 1 สัปดาห์เม็ดหูดจะเล็กลงและหลุดไปเอง
กล้วยคือ......???
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)